“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา ทยอยแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ประกอบกับมีแรงหนุนจากข้อมูลการส่งออกของไทยที่หดตัวน้อยกว่าคาดในเดือน มี.ค. 2566 และตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในเดือน มี.ค. 2566 ที่บันทึกยอดเกินดุลสูงถึง 4.78 พันล้านดอลลาร์
โดยภาพดังกล่าวสวนทางเงินดอลลาร์ ซึ่งเผชิญแรงขาย หลังข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ มีสัญญาณอ่อนแอ อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2566 และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานเดือน มี.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2566
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ ยังมีปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งยังคงไม่ได้ข้อสรุป รวมถึง ปัญหาความอ่อนแอของธนาคารบางแห่งในสหรัฐ
ในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.10 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับ 34.39 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 เม.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 เม.ย. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยที่ 3,956 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตร 4,389 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 7,741 ล้านบาท ขณะที่มีตราสารหนี้หมดอายุ 3,352 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (1-5 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.80-34.40 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (2-3 พ.ค.) ธนาคารกลางออสเตรเลีย (2 พ.ค.) และธนาคารกลางยุโรป (4 พ.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของไทย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน เม.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน มี.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือน เม.ย. ของจีน ยูโรโซนและอังกฤษ และอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน